สินค้า/บริการ

#กราบขอบพระคุณเฮียบุญฤทธิ์ ลูกค้า VIP ที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ของทีมงานเด่นโมดิฟายระยองไปแล้ว
เอาผลไม้จากจันทบุรีมาให้ทานทุกปีเลย
#ฟลัชชิ่งเกียร์เต็มระบบสูตรเด่นโมดิฟายระยอง
..🚘.. รถ ..🚘.. #..Mazda#Bt50 Pro..
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=A0VOW2Kigas[/embedyt]

#การฟลัชชิ่งเป็นการขจัดน้ำมันเกียร์เก่าออกโดยนำน้ำมันใหม่หมุนเวียนเข้าไปแทนที่น้ำมันเก่าที่ถูกขับออกมา จึงทำให้น้ำมันเกียร์ที่อยู่ในระบบเกียร์เป็นน้ำมันใหม่ที่สะอาดและมีการปนเปื้อนกับน้ำมันเก่าที่ค้างอยู่ในระบบน้อยมาก 💯💯💯..(ในกรณีที่ต้องการไม่ให้เกิดการปนเปื้อนเลยอาจต้องใช้น้ำมันใหม่มากกว่าที่คู่มือระบุเล็กน้อย💯💯💯🚗
#ประโยชน์ที่ได้
จากการฟลัชน้ำมันเกียร์ – น้ำมันเกียร์สังเคราะห์ เข้าไปในระบบ 100% เต็ม – ลดการสึกหรอและความเสียหายของเกียร์ ยืดอายุการทำงานของเกียร์ – เกียร์ทำงานดีนิ่มนวล แม่นยำ ทำให้จังหวะการขับขี่ดีขึ้น…
🚗🧑🏻‍🔧เอารถเข้าศูนย์หรือเข้าอู่ทีไร บางครั้งช่างก็บอกให้ถ่ายน้ำมันเกียร์บ้าง ฟอกเกียร์บ้าง หรือฟลัชชิ่งบ้าง… แต่สุดท้ายคุณคิดว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จำเป็นหรือไม่ และควรเปลี่ยนถ่ายแบบไหน ครั้งนี้เรามีคำแนะนำมาฝากครับ
ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์?
น้ำมันเกียร์ทำหลายหน้าที่ เช่น ลดแรงเสียดทาน ถ่ายเทความร้อนจากประปุกเกียร์ ช่วยหล่อลื่น ป้องกันการสึกกร่อนและสนิมที่เกิดจากการกัดกร่อนของชิ้นส่วนภายในเกียร์ พร้อมทั้งชะล้างเศษโลหะจากแผ่นคลัตช์หรือหน้าฟันเกียร์ ดังนั้นการใช้น้ำมันเกียร์ไปนานๆ โดยไม่เปลี่ยนถ่ายจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของเศษโลหะและเสื่อมสภาพไปในที่สุด ดังนั้นผู้ขับขี่ทุกคนจึงต้องใส่ใจกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนดเสมอครับ
การเปลี่ยนถ่าย ฟอกเกียร์ และฟลัชชิ่ง ต่างกันอย่างไร?
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ จะมีการถ่ายน้ำมันเกียร์เก่าที่อยู่ก้นอ่างเกียร์ออกมาบางส่วน และเติมน้ำมันเกียร์ใหม่เข้าไปในอัตราส่วนประมาณ 30 : 70 ตอนเปลี่ยนจึงต้องใช้น้ำมันเกียร์แบบเดิม หรือมีคุณภาพสูงกว่าเพื่อให้คงสภาพการใช้งานได้ดี และเป็นวิธีที่ใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์ไม่เยอะ
การฟอกเกียร์ จะมีการถ่ายน้ำมันเกียร์เก่าออกมาทั้งหมดและดันน้ำมันเกียร์ใหม่เข้าไปแทนที่แบบ 100% ทำให้ยืดอายุการใช้งานของเกียร์ได้ยาวนานขึ้น เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นไหล ไม่สะดุด แต่ระบบภายในของเกียร์อาจไม่ได้สะอาดหมดจด
การฟลัชชิ่ง จะมีการใช้เครื่องถ่ายน้ำมันเกียร์เก่าออกมาเต็มระบบ ทั้งน้ำมันในอ่างเกียร์ และน้ำมันที่ตกค้างอยู่ในระบบเกียร์ภายในและ Torque converter รวมถึงอาจมีการใช้น้ำยาทำความสะอาดล้างคราบสกปรกหรือคราบดำที่เกาะอยู่ตามจุดต่างๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือชุดเกียร์ที่สะอาดเหมือนตอนที่ใช้งานใหม่ๆ แต่ในขณะเดียวกันน้ำยาทำความสะอาดก็ไปทำลายชั้นฟิล์มที่เคลือบชิ้นส่วนต่างๆ ออกไปทำให้เกิดการสึกหรอเร็วขึ้นเล็กน้อย
รู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่รถต้องเปลี่ยนถ่าย ฟอกเกียร์ หรือฟลัชชิ่ง?
แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายตามระยะการใช้งานเช่นเดียวกับของเหลวชนิดอื่นๆ โดยอาจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องปกติทุก 15,000-20,000 กิโลเมตร ส่วนการฟอกเกียร์หรือฟลัชชิ่งควรทำทุก 40,000 -80,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะการใช้งานของแต่ละคนด้วย หากใช้งานในกรุงเทพที่รถติดมาก ทำให้เกียร์ทำงานหนักตลอดเวลาก็ควรเปลี่ยนถ่ายเร็วขึ้นได้ครับ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน หัวใจสำคัญก็คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์สม่ำเสมอเพื่อให้ระบบเกียร์คงสภาพที่ดี ใช้งานกันไปได้ยาวๆ …อย่าลืมว่ายอมเสียเวลาและค่าเปลี่ยนถ่าย ก็ดีกว่าละเลยจนทำให้ระบบเกียร์เสียหายจนต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่ยกชุดนะครับ..
✅✅✅#การล้างเกียร์แบบสะอาดที่สุดอยู่ที่ขั้นตอนและน้ำยาล้างที่ดี จะยึดอายุการใช้เกียร์ได้ยาวนาน การฟลัชชิ่งราคาสูงแต่คุ้มค้า
-ค่าบริการฟรัชชิ่ง2,500 บาท
– ถ้ามีการเปิดแทงค์ เปลี่ยนกรองค่าบริการเพิ่มอีก 500 บาท
-กรองน้ำมันเกียร์ ราคาตามบินศูนย์หรือลูกค้าสามารถนำมาเองได้
*กรณีลูกค้าสามารถนำน้ำมันเกียร์มาเอง (กรุณานำน้ำมันเกียร์ มา 2 เท่า+อีก 1 ลิตรจากการถ่ายปกติ)เหลือกลับบ้านได้เลย
– ค่าน้ำยาล้าง ระบบเกียร์ภายในละ 250 บาท ไช้ 8-10 ลิตร ตามจริงจนกว่าน้ำมันจะใสสะอาด
หรือน้ำยาล้างเกียร์ Ezi สูตรประหยัดแบบกระป๋อง กระป๋องละ 450บาท ควรใช้ 2 กระป๋องจะได้ผลดีหรือตามใจลูกค้า
– น้ำมันเกียร์สูตรพิเศษ เด่นโมดิฟายระยองลิตรละ450 บาท แบบมีสารเสริมEzi และEster
**การฟลัชชิ่งโดยเครื่องไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการฟลัชชิ่งจริง และได้ผลดี
******การฟลัชชิ่งสูตรเด่นโมดิฟาย เน้นสะอาด ทั้งระบบเกียร์ทั้งนอกและในใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง💯💥💯

จำนวนการเข้าชม